1. สารภาพความรักกับช็อกโกแลตในประเทศญี่ปุ่น

วันวาเลนไทน์ถือเป็นวันสุดพิเศษสำหรับเด็กสาวชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะวัยมัธยม เป็นประเพณีที่เด็กสาวชาวญี่ปุ่นจะกลับบ้านมาทำช็อกโกแลตในวันนี้และมอบให้ชายหนุ่มที่เธอแอบชอบ โดยช็อกโกแลตจะถูกทำอย่างพิถีพิถันและไม่ได้เป็นช็อกโกแลตที่ซื้อตามร้านทั่วไป เพราะการลงมือทำเอง บ่งบอกถึงความรู้สึกที่จริงใจ และหากชายหนุ่มผู้นั้นตอบรับหรือรู้สึกพิเศษกับหญิงสาวเช่นกัน จะมีการให้มาร์ชแมลโลตอบกลับในวัน White Day ซึ่งตรงกับวันที่ 14 มีนาคม

2. ความรักของสาวโสดกับเส้นบะหมี่ดำ (จาจังมยอน) ในเกาหลีใต้

ชาวเกาหลีใต้ถือเป็นแฟนตัวยงของวันวาเลนไทน์ และพวกเขาก็มักจะเฉลิมฉลองกันเกือบทุกเดือน นอกเหนือไปจากวาเลนไทน์ในเดือนกุมภาพันธ์แล้ว ยังมีวันดอกกุหลาบแห่งชาติ (Rose’s Day) ในเดือนพฤษภาคม วันคิสเดย์ (Kiss’s Day) ในเดือนมิถุนายน และวันกอดกันแห่งชาติ (Hug’s Day) ในเดือนธันวาคม แม้แต่วันแห่งความรักสำหรับคนโสด หรือที่เรียกกันว่าวัน Black Day ก็จะจัดขึ้นในวันที่ 14 เมษายนของทุกๆ ปี โดยในวันนี้ คนโสดจะมารวมตัวกันเพื่อกินบะหมี่ดำ (จาจังมยอน) เพื่อให้กำลังใจตัวเอง จึงเป็นที่มาของ ‘วันสีดำ’  ซึ่งมาจากสีของซอสที่ใช้ราดบนเส้นบะหมี่นั่นเอง

3. ที่มาของรูปหัวใจบนแขนเสื้อในแอฟริกาใต้

ชาวแอฟริกาใต้มักจะเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์ตามธรรมเนียมปฏิบัติเหมือนชาติอื่นๆ เช่น ให้ของขวัญเป็นดอกไม้และช็อกโกแลต และพาไปดินเนอร์อันสุดหรูหรายามค่ำคืน อย่างไรก็ตาม หญิงสาวชาวแอฟริกาใต้จะมีธรรมเนียมที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์มากกว่า ตามรอยการเฉลิมฉลองของโรมันเก่าหรือที่เรียกว่า ‘Lupercalia’ ซึ่งผู้หญิงจะใส่ชื่อของคนรักหรือคนที่สนใจลงบนแขนเสื้อ โดยทำการตัดผ้าเป็นรูปหัวใจแล้วเขียนชื่อคนที่แอบรักลงไปพร้อมติดไว้ที่แขนเสื้อ เพื่อประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเธอแอบหมายตาชายใด

4. ประเพณีขว้างส้มลงไปในแม่น้ำของชาวมาเลเซีย

แม้ว่าชาวมาเลเซียจะจัดงานวาเลนไทน์เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกปี โดยปกติมักจะตรงกับคืนที่ 15 ของเทศกาลตรุษจีนหรือคืนสุดท้ายก่อนหมดเทศกาลตรุษจีน ชาวมาเลเซียจึงนิยมเรียกเทศกาลวาเลนไทน์ว่า Chap Goh Mei ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน ในวันนี้สาวโสดจะนำผสส้มแมนดาริน พร้อมเขียนชื่อ เบอร์โทรแล้วโยนลงไปในทะเลพร้อมอธิษฐานให้ได้พบกับรักแท้ในชีวิต ส่วนหนุ่มๆ ก็จะพายเรือออกไปเก็บผลส้มกันเป็นที่สนุกสนาน โดยเทศกาล Cha Goh Mei ถูกจัดขึ้นที่เมืองปีนังอย่างครึกครื้น

5. เทศกาล Sister’s Meal ในแคว้น Miao Region

ชาว Miao คือชนกลุ่มน้อยหรือชาวเขาที่อาศัยทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มันอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับวาเลนไทน์มากนัก แต่ถือเป็นกิจกรรมที่โรแมนติกและน่าสนใจที่จัดขึ้นในช่วงวาเลนไทน์ทั้น โดยชาว Miao จะมีการจัดเทศกาล ‘Sister’s Meal’ ขึ้นในแคว้น Miao โดยชายหนุ่มจะไปหาคนรักหรือคนที่เขาสนใจและร้องเพลงให้หญิงสาวผู้นั้น หากหญิงสาวตอบรับ เธอจะให้ตะกร้าที่ใส่ข้าวหลากสีพร้อมกับตะเกียบ 1 คู่กับชายหนุ่ม แต่ถ้าเธอปฏิเสธ ชายหนุ่มผู้นั้นก็จะยังคงได้รับตะกร้าใส่ข้าวหลากสีเหมือนกัน แต่มีกระเทียมอยู่ในนั้นแทน

6. เทศกาลรักช้อนในประเทศเวลล์ (Wales)

เวลล์ เป็น 1 ใน 4 ประเทศของสหราชอาณาจักร ชาวเวลล์จะเฉลิมฉลองความรักแบบดั้งเดิมในวัน St.Dwynwen ซึ่งตรงกับวันที่ 25 มกราคม แทนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในวันนี้ ชายหนุ่มจะเตรียมช้อนที่แกะสลักอย่างประณีตสวยงามหรือที่รู้จักกันในชื่อ ช้อนแห่งความรัก เพื่อแสดงความรักต่อผู้หญิงที่เขาชอบ โดยช้อนที่น่ารักเหล่านี้ถือเป็นงานศิลปะดั้งเดิมของชาวเวลล์และถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ทั่วเมืองเวลล์

7. วาเลนไทน์ในฝรั่งเศส

1,500 ปีมาแล้วที่วันวาเลนไทน์เป็นการเฉลิมฉลองที่นิยมมาในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในฝรั่งเศส ซึ่ง 71% ของชาวฝรั่งเศสจะเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์กับคนรัก พวกเขาใช้เงินราว 50 ยูโร (ประมาณ 1,700 บาท) เพื่อซื้อของขวัญให้กันและกัน เช่น ดอกไม้ เครื่องประดับ ตุ๊กตาคิวปิด หรือพาไปดินเนอร์สุดแสนโรแมนติก นอกจากนี้ ร้านค้าต่างๆ รู้ดีว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงขายดี จึงมักตั้งโชว์ของขวัญธีมวาเลนไทน์เรียงรายไว้หน้าร้านก่อนถึงวันจริงเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม สำหรับวาเลนไทน์ในบ้านเรานั้น ยังคงได้รับความนิยมในบรรดาคู่รักหนุ่มสาว วัยใส และคนมีคู่ ที่มักจะมอบของขวัญในวันพิเศษนี้ให้แก่กัน ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกในการซื้อสินค้าได้มากมายหลายช่องทาง รวมไปถึงการสั่งของจากจีนด้วย ที่สำคัญการสั่งของจากจีนผ่านตัวแทนสั่งซื้อ ยังมักจะมีบริการชิปปิ้งแบบครบวงจรในตัว ทำให้สะดวกสบายแถมได้ของดีไซน์เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 8 ข้อต้องมี ชิปปิ้งที่ควรเลือกใช้บริการ