Taobao ในขณะที่ Social Distancing กลายเป็นเรื่องปกติในสังคม เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อ Covid-19 ที่ลุกลามและยาวนาน เช่นเดียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์สภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ และจะกลายเป็น New Normal หลังจากการสิ้นสุดสถานการณ์ COVID-19
First Taobao สรุปใจความสำคัญที่เกี่ยวกับองค์กร แบรนด์ และพฤติกรรมผู้บริโคที่จะเปลี่ยนไป ดังนี้
พฤติกรรมการช็อปปิ้งที่กำลังพัฒนา
โดยรวมแล้ว ผู้บริโภค 56% มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายน้อยลงและซื้อสิ่งที่พวกเขาต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การเปลี่ยนแปลงที่ผู้ริโภคใช้จ่ายต่ออีคอมเมิร์ซ จากการศึกษาล่าสุดโดย Absolunet พบว่ายอดขายอีคอมเมิร์ซได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซชาวแคนาดา ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่องค์การอนามัยโลกประกาศสถานการณ์การระบาดทั่วโลก ร้านค้าปลีกแบบครบวงจร ทั้งออนไลน์และร้านค้าทั่วไป มียอดขายพุ่งในช่วง Social Distancing นี้ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่เปลี่ยนไปสู่การช็อปปิ้งออนไลน์ ร้านค้าอีคอมเมิร์ซกลายเป็นผู้นำในหมวดการจัดส่งออนไลน์ และมากขึ้นกว่าเดิม
ความภักดีต่อแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากความพร้อมใช้งานของสินค้า/ผลิตภัณฑ์มีความสำคัญสูงสุด 40% ของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปซื้อแบรนด์อื่นมากกว่า หากสินค้าของแบรนด์ที่ซื้อเป็นประจำ ไม่พร้อมใช้งาน และหลังจากการระบาดของ COVID-19 สิ้นสุด คาดว่าผู้บริโภคจะเริ่มกลับมาใช้บริการที่ร้านค้าทั่วไป อย่างไรก็ตาม ธุรกิจร้านค้าปลีกอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ เช่น Amazon Alibababa Taobao Tmall 1688 ฯลฯ ยังคงเป็นตัวเลือกในการช็อปปิ้งเป็นอันดับแรกของผู้บริโภค
ผู้บริโภคกำลังพิจารณาความบันเทิงรูปแบบใหม่
ผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไปใช้รูปแบบใหม่ของความบันเทิง เช่น บริการสมัครสมาชิกอย่าง Netflix , Disney+ หรือ Spotify โดยพบว่า 43% ของผู้บริโภคพิจารณาการใช้จ่ายสำหรับบริการสมัครสมาชิก ที่พวกเขาไม่เคยคิดจะสมัครมาก่อน ที่จะเกิดการระบาดของ COVID-19 ซึ่งพบมากที่สุดในกลุ่ม Gen Z 57% และกลุ่ม Gen Me 56% นอกจากนี้ผู้บริโภคยังใช้เวลาในการรับชมสื่อต่างๆ โดยเฉพาะเนื้อหาในวิดีโอออนไลน์เช่น YouTube และ TikTok
กลุ่ม Gen Z ยังแสดงให้เห็นถึงการบริโภคสื่อที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด โดย 58% ของผู้ชม Gen Z มีรายงานการใช้งานโซเชียลมีเดียมากขึ้น ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โรคติดเชื้อ Coronavirus ระบาด และด้วยการบริโภคที่สูงขึ้น ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียได้ง่ายขึ้น
แบรนด์จะปรับเปลี่ยนและยึดมั่นในมาตรฐานใหม่
การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการที่แบรนด์ตอบสนองต่อวิกฤต COVID-19 ครั้งนี้อย่างไร เนื่องจากผู้บริโภคมีความคาดหวังว่าแบรนด์ต่างๆ จะสนับสนุนหรือผลิตสินค้าที่สามารถช่วยเหลือผู้บริโภคในยามวิกฤต เช่น บริจาคส่วนหนึ่งของยอดขายให้กับโรงพยาบาลท้องถิ่นหรือเป็นส่วนหนึ่งในการเยียวยาผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ
เห็นได้ชัดว่า ผลกระทบจาก COVID-19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคและมีแนวโน้มว่าพฤติกรรมใหม่ๆ เหล่านี้ จะยังอยู่ต่อไปในระยะยาว เช่น
◾ การสั่งซื้อออนไลน์จะเป็นช่องทางหลักสำหรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอนาคต แบรนด์และองค์กรที่ไม่เคยมีบริการออนไลน์ ต้องปรับเปลี่ยนเป็น New Normal หากไม่เช่นนั้นธุรกิจอาจอยู่ไม่รอด
◾ ผู้คนใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น และจะยังคงเลือกใช้บริการจัดส่งสินค้าโดยเฉพาะ Food Delivery โดยคาดการณ์ว่าพวกเขาจะออกไปกินข้าวน้อยลงในอนาคตอันใกล้
◾ การซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากผู้บริโภคพยายามลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ขณะเดียวกัน สำหรับคนที่ยังคงใช้จ่ายปกติ อาจจะมีการใช้จ่ายสูงกว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นและที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโรค อาทิ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหาร และยา
◾ ผู้บริโภคเสพสื่อมากขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหาวิดีโอออนไลน์ ซึ่งแบรนด์ควรพิจารณาวิธีการใหม่ในการเข้าถึงผู้ชมในช่องทางออนไลน์ เช่น TIKTOK และ Youtube
อย่างไรก็ตาม อาจยังไม่เป็นที่ทราบได้แน่ชัดว่าผู้บริโภคจะมีความภักดีต่อแบรนด์มากขึ้นหรือน้อยลงในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่แน่นอนว่าแบรนด์ที่มีจุดประสงค์ที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จะสามารถรักษายอดขายและความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภคได้ในระยะยาว
อ้างอิงข้อมูล : https://www.hkstrategies.com/how-covid-19-will-change-consumer-behavior-purchase-patterns/