สินค้าเฉพาะกลุ่มคืออะไร ?

สินค้าเฉพาะกลุ่ม คือสินค้าที่สามารถทำกำไรได้ในตลาดใดๆ ก็ตาม เพียงแค่คุณโฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะหรือผู้ที่กำลังมองหาสินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับตัวของเขาเอง วิธีนี้จะทำให้คุณค้นหาว่าควรขายอะไรและโปรโมทมันให้ถูกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม คำว่าเฉพาะกลุ่ม อาจมีสินค้าหรือบริการย่อยๆ หลายชั้น อาทิ ธุรกิจหลัก – สัตว์เลี้ยง / กลุ่มเป้าหมายเฉพาะของธุรกิจสัตว์เลี้ยงคือ คนเลี้ยงสุนัข / หน่วยย่อยเฉพาะกลุ่มคือ คนเลี้ยงสุนัข และการฝึกสุนัข / หน่อยย่อยลงไปอีก คือ คนเลี้ยงสุนัข การฝึกสุนัข โดยเฉพาะการฝึกสุนัขพิทบูล เชื่อเถอะว่าในทุกธุรกิจจะมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และหน่อยย่อยที่เฉพาะกลุ่มลงไปอีก ซึ่งมันจะทำให้คุณง่ายต่อการเข้าถึง หากคุณมีทักษะรอบตัว

9 ขั้นตอนของการตามหาสินค้าเฉพาะกลุ่มในเถาเป่า

1. ตามหาสินค้าเฉพาะกลุ่มที่คุณหลงใหล

การเจาะตลาดสินค้าเฉพาะ ที่คุณมีความชื่นชอบเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว อาจไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะทำกำไรได้มหาศาลจากตลาดนี้ เพราะเมื่อคุณมีความชอบ ก็ย่อมรู้ว่าเนื้อหาประเภทใดที่จะดึงดูดใจผู้ซื้อออนไลน์ได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ย่อมมีความรู้ที่ลึกซึ้งกว่าเรื่องที่คุณไม่ได้สนใจ อย่างไรก็ตาม อาจไม่จำเป็นว่าสินค้าที่คุณชอบนั้น จะทำกำไรได้เสมอไป เพราะฉะนั้น เราจึงขอแนะนำให้คุณเรียงลำดับสินค้าเฉพาะกลุ่ม 5 อันดับแรกที่คุณสนใจ ลิสต์ออกมาเป็นข้อๆ ที่มีจำหน่ายในเถาเป่า (อ่านเพิ่มเติม 10 เทรนด์สินค้าที่มีแนวโน้มขายดีที่สุดปี 2020)

2. เช็คมูลค่าสินค้าในตลาดเฉพาะกลุ่ม

ก่อนที่คุณจะกระโจนสู่สินค้าเฉพาะกลุ่มที่หมายตาเอาไว้ ต้องวิเคราะห์ข้อมูลและเช็คความคุ้มค่าของสินค้านั้นก่อนว่ามันมีมูลค่าที่จะขายได้หรือไม่ เช่น อุปกรณ์ต่อต้านริ้วรอยที่คาดว่าจะมีมูลค่า 43.33 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปี 2569 หรือหากไม่แน่ใจว่าอะไรคือสิ่งที่จะขายได้ดีที่สุด อาจเช็คมูลค่าของ Keyword ที่มีจำนวนการคลิกค้นหาสูงที่สุดใน Google ก็ได้

3. ศึกษาตัวสินค้าที่หมายตา ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

อย่าลืมศึกษาถึงความนิยมในตัวสินค้าที่คุณสนใจ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพื่อวิเคราะห์ถึงแนวโน้มความนิยมในอนาคต โดยคลิกชื่อสินค้าลงใน Google Trends https://trends.google.co.th/trends/?geo=TH ระบบจะทำการประมวลโดยแสดงเป็นกราฟ สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในอดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งมันจะช่วยให้คุณคาดคะเนแนวโน้มในอนาคตต่อไปได้

4. ระบุปัญหาของสินค้าเฉพาะกลุ่มนี้

ลองคิดว่าหากคุณเป็นผู้บริโภค สินค้าประเภทนี้จะช่วยแก้ปัญหาอะไรให้กับคุณได้บ้าง เพราะสินค้าส่วนใหญ่ที่ขายดีนั้น มักเป็นสินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาหรือตอบโจทย์อะไรบางอย่างสำหรับผู้ซื้อได้อย่างตรงใจ ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นหรืออำนวยความสะดวกได้มากขึ้น ซึ่งหากคุณค้นพบแล้ว ก็เชื่อได้เลยว่าสินค้านั้นจะทำกำไรให้คุณได้อย่างแน่นอน

5. ค้นหาสินค้าให้มากพอแล้วทำการโปรโมทและจำหน่าย

ก่อนวางแผนการขาย อย่าลืมเช็คให้ถี่ถ้วนเกี่ยวกับสินค้าประเภทเดียวกันที่มีขายในท้องตลาด แม้จะเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม แต่ก็อาจมีคนที่ขายเหมือนคุณ นอกจากนี้ควรตรวจสอบด้วยว่าคุณมีสินค้ามากพอที่จะขายได้หรือไม่ เพราะการมีสินค้าไม่เพียงพอที่จะขาย พบว่าเป็น 1 ใน 10 สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพล้มเหลว (ข้อมูลจาก Statistics 2017)

6. เช็คกลุ่มเป้าหมายที่คิดว่าจะซื้อ

หากว่าคุณต้องการจะจบว่าสินค้าใดคือสินค้าเฉพาะกลุ่มที่ต้องการขาย คำถามต่อไปคือ ผู้ซื้อยินดีที่จะจ่ายหรือไม่ ? หากคำตอบนั้นคือ ‘ใช่’ ก็ลุยต่อได้เลย

7. วิเคราะห์การแข่งขัน

เพราะการแข่งขันคือความสนุกและความท้าทายในการทำธุรกิจ ดังนั้น ควรวิเคราะห์เว็บไซต์ของคู่แข่งอยู่เสมอ นอกจากนี้ ควรสร้างเนื้อหาหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ให้คุณค่าเหนือกว่าคู่แข่ง หรือเลือกนำเสนอสิ่งที่เป็นจุดเด่นอย่างเหนือชั้น

8. มองหาการโฆษณาออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

ปัจจุบัน วิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือ การทำโฆษณาออนไลน์ เพราะคนในยุคนี้ ส่วนใหญ่เข้าถึงออนไลน์และใช้อินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ควรจัดสรรงบในการลงโฆษณาออนไลน์เพื่อเพิ่มประสิทธิผลเรื่องยอดขาย

9. สร้างความดึงดูดและน่าสนใจ

การจัดแคมเปญหรือโปรโมชั่นพิเศษในโอกาสต่างๆ เป็นตัวช่วยดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายคุณได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่ยอดขายนิ่ง คุณอาจทำโปรโมชั่น ซื้อ 2 ชิ้นขึ้นไปจัดส่งฟรี หรือให้คูปองสำหรับใช้ลดราคาสินค้า 10% ในครั้งหน้า วิธีนี้จะช่วยให้สินค้าของคุณได้รับความการพูดถึงอีกครั้ง เป็นต้น

อ้างอิงข้อมูล : https://www.withintheflow.com/dropshipping/how-to-find-a-profitable-niche/