เถาเป่า 7 APPS ที่ใช่ ! ร้านค้าออนไลน์ต้องมี

เถาเป่า 7 apps ที่ใช่ ร้านค้าออนไลน์ต้องมี เถาเป่า เถาเป่า 7 APPS ที่ใช่ ! ร้านค้าออนไลน์ต้องมี 7 apps                                                                                 768x402

เถาเป่า เว็บไซต์ยอดนิยมอันดับ 1 ที่คนจีนนิยมสั่งซื้อสินค้ามากที่สุด ด้วยรายการสินค้าที่มีมากมายกว่า 1 ล้านชิ้น และครอบคลุมเกือบทุกประเภท จนว่ากันว่าไม่มีอะไรที่คุณจะหาไม่เจอใน Taobao.com 

เถาเป่า จึงไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในหมู่คนจีนเท่านั้น คนไทยและร้านค้าออนไลน์ในไทย ต่างก็เทคะแนนให้เว็บไซต์เถาเป่า เหมาะสำหรับการสั่งซื้อสินค้าเพื่อมาจำหน่ายต่ออีกด้วย

ทว่า การจะเปิดร้านค้าออนไลน์นั้น ใช่ว่าการมีสินค้าที่ดีมีคุณภาพเพียงอย่างเดียว จะช่วยให้ดึงดูดความสนใจลูกค้าได้ ในยุคนี้ ร้านค้าออนไลน์ แม้กระทั่งเถาเป่า เอง จำเป็นต้องมีตัวช่วยหรือเครื่องมือทางการตลาด เช่น แอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายของร้านค้ากลายมาเป็นลูกค้าได้ในที่สุด

  1. MailChimp

    เป็นระบบ E-Mail Marketing หรือการทำตลาดผ่านช่องทางการส่งอีเมล ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากระบบของ MailChimp ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และมีระบบการวัดผลทางสถิติค่อนข้างชัดเจน เข้าใจง่าย แต่ก่อนจะเริ่มใช้งาน MailChimp เจ้าของธุรกิจต้องมีฐานข้อมูล Email List ของกลุ่มลูกค้า

  2. Buffer

    เป็นแอปพลิเคชั่นที่ช่วยให้เจ้าของร้านค้าออนไลน์ กำหนดเวลาในการโพสต์วีดิโอที่จะลงบน Facebook, Twitter, Linkedln, Pinterest และ Google+ ระบบจะทำการโพสต์เป็นวีดิโอ แต่หากโพสต์ลงบน Pinterest หรือ Linkedln โปรแกรมจะเพิ่มลิ้งค์ที่จะรีไดเรกต์ผู้ใช้ไปยังวีดิโออีกทอดหนึ่ง

  3. Mint

    แอปพลิเคชั่นด้านการเงิน ที่ช่วยให้เจ้าของกิจการคำนวณรายรับและรายจ่ายต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ พร้อมแจ้งเตือนเวลาที่ใกล้จะถึงกำหนดชำระบิล แต่ที่ล้ำกว่านั้นคือ ผู้ใช้งานสามารถชำระบิลผ่านทางแอปพลิเคชั่นนี้ได้ แถมยังมีการแจ้งเตือนรายจ่ายที่ผิดปกติด้วย Mint จึงขึ้นชื่อว่าเป็นแอปฯ ที่ช่วยควบคุมรายรับ รายจ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

  4. Expense IQ

    แอปพลิเคชั่นการเงินที่เหมาะสำหรับคนขี้หลงขี้ลืม แถมยังไม่ชอบการบันทึกอะไรที่เยอะแยะมากมาย เพียงแค่คุณบันทึกข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินของตัวเองลงไปในแอปฯ ระบบจะทำการคำนวณให้โดยอัตโนมัติ แถมยังมีการแบ่งสัดส่วนการใช้เงินให้อย่างชัดเจน ไม่ต้องมานั่งจำหรือนั่งบันทึกเอาเอง

  5. Google Analytics

    เป็นเครื่องมือที่ให้บริการฟรีของ Google ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์เก็บข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และนำข้อมูลที่ได้มานั้น ไปวิเคราะห์ปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาด การซื้อโฆษณา การปรับปรุงหน้าตาและรูปแบบของเว็บไซต์ ตลอดจนการค้นหาสิ่งที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์สนใจ พูดง่ายๆ คือ Google Analytics ช่วยให้เจ้าของธุรกิจทราบถึงปัญหาและหาวิธีแก้ไขปรับปรุง เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตและเพิ่มยอดขาย

  6. Hootsuite

    เครื่องมือที่ช่วยติดปีกทางธุรกิจ เป็นตัวที่ดังและครบเครื่องที่สุดในเรื่องของการ Publish Content ลงบน Social Media การจัดการกับข้อความและคอมเม้นท์ การสร้างแคมเปญ ฯลฯ ข้อดีของ Hootsuite คือมันเป็นเครื่องมือที่ทำได้แทบทุกอย่าง ทดลองเริ่มต้นใช้งานได้ฟรี

  7. Sellsuki

    ระบบบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ ที่สามารถจัดการคลังสินค้า มีระบบบริการจัดการคลังสินค้าที่จะทำให้รู้ว่ามีสินค้าอยู่เท่าไหร่ ต้องสั่งเพิ่มหรือผลิตเพิ่มอีกเมื่อไหร่ ตลอดจนสามารถสื่อสารพูดคุยกับลูกค้าบน Facebook และ Line รวมไปถึงช่วยให้การเปิดปิดบิลการขายสะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วย ด้วยหน้าตาของแอปฯ ที่ทันสมัยและใช้งานง่าย จึงใช้เวลาไม่นานในการทำความเข้าใจ

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า การมีตัวช่วยที่ดีหรือเครื่องมือที่ช่วยด้านการตลาดที่เหมาะสม จะทำให้ร้านค้าออนไลน์เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คลิกอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ก้าวที่งดงามของอินเตอร์เน็ตและแอปพลิเคชั่นจีน